เมืองพัทยา ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี จัดงานเทศกาลดนตรีเมืองพัทยา "PATTAYA MUSIC FESTIVAL 2024" เพื่อให้เมืองพัทยา เป็นเมืองแห่งเสียงดนตรีระดับประเทศ และยังเป็นการเผยแพร่ภาพลักษณ์ความสวยงามของชายหาดเมืองพัทยา รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
ร่วมสนุกไปพร้อมกัน กับศิลปินชั้นนำมากมายมากกว่า 50 ชีวิตในงานเทศกาลดนตรีเมืองพัทยา "PATTAYA MUSIC FESTIVAL 2024" ทุกวันศุกร์ - วันเสาร์ของเดือนมีนาคม ตลอด 4 สัปดาห์
ณ เวทีหลักชายหาดพัทยากลาง เวทีชายหาดพัทยาเหนือ (โค้งดุสิต) เวทีชายหาดพัทยาเหนือ (ซอย 6)  เวทีชายหาดจอมเทียน เวทีสวนสาธารณะลานโพธิ์นาเกลือ และเวทีชายหาดแสม เกาะล้าน

การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิฉะเชิงเทราเพื่อการพัฒนา และมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดกิจกรรม “รถไฟไทย ใครๆ ก็เที่ยวได้” ครั้งที่ 2 นำคณะครู และน้องๆผู้บกพร่องทางการมองเห็นฯ จากโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ จำนวน 100 คน นั่งรถไฟ KIHA 183 เดินทางท่องเที่ยว เปิดประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่นอกห้องเรียน พร้อมกับทัศนศึกษาและรับฟังการบรรยายจากวิทยากร เกี่ยวกับเรื่องราวของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประวัติความเป็นมาของขบวนรถไฟ KIHA 183 ที่ร้อยเรียงให้ความรู้ในเรื่องของประเทศญี่ปุ่น ประวัติและข้อมูลที่สำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา ทั้งในเรื่องอาหาร ศิลปะ วัฒนธรรม สถานที่สำคัญ ตลอดถึงความสำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทราของการเป็น 1 ใน 3 จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ( Eastern Economic Corridor) โดยมีนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ประธานมูลนิธิฉะเชิงเทราเพื่อการพัฒนา ดร.วรรธนะ เจริญนวรัตน์ รองประธานมูลนิธิฯ นางเสาวณี สุวรรณชีพ ประธานมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ผู้บริหารการรถไฟฯ ผู้บริหารมูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ และมูลนิธิฉะเชิงเทราเพื่อการพัฒนา เข้าร่วมกิจกรรม

การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จัดกิจกรรมหน่วยแพทย์เฉพาะทางเคลื่อนที่ (Doctor Train) ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 27-28 สิงหาคม 2567 ณ สถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชน พนักงานการรถไฟฯ และครอบครัวในอำเภอทุ่งสง และพื้นที่ใกล้เคียง เข้ารับบริการตรวจสุขภาพและคัดกรองโรคฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 
การจัดกิจกรรมออกหน่วยแพทย์เฉพาะทางเคลื่อนที่ หรือ Doctor Train ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2565 เป็นกิจกรรมที่การรถไฟฯ มุ่งดำเนินการเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อสังคม โดยนำคณะแพทย์จาก สจล. และโรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในสาขาต่าง ๆ ให้บริการตรวจเช็คร่างกาย ตรวจวินิจฉัย คัดกรองโรคต่าง ๆ ได้ฟรี ให้แก่ประชาชนทั่วไป พนักงานการรถไฟฯ และครอบครัว โดยในรอบปีที่ผ่านมา ได้นำคณะแพทย์ออกตรวจคัดกรองโรคอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ประกอบด้วย ภาคใต้ที่จังหวัดชุมพร ภาคเหนือที่จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดลำปาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดสระบุรี ช่วยเพิ่มโอกาสให้กับประชาชน พนักงานการรถไฟฯ และครอบครัว เข้าถึงระบบสาธารณสุขได้กว่า 2,500 ราย และมีการติดตามการรักษาอีกกว่า 100 ราย

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เวลา 16.00 น. การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง จัดกิจกรรมทางดนตรีครั้งสำคัญ ในสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ภายใต้ชื่องาน “น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง เติมเต็มคำว่าเพื่อน” “Chang Road to Friendship”
โดยการจัดกิจกรรมทางดนตรีในสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อใช้เสียงดนตรี เป็นสื่อกลางให้คนรุ่นใหม่ เข้ามามีส่วนร่วมใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สร้างสรรค์มิตรภาพ และความสนุกสนานร่วมกัน ตลอดจนส่งมอบความสุขแก่ประชาชน ผู้โดยสารที่ชื่นชอบเสียงดนตรีที่เข้ามาใช้บริการในสถานี โดยมีหัวลำโพง เป็นศูนย์กลางในการบอกเล่าเรื่องราวของกิจกรรม
นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้ร่วมมือกับ น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง จัดกิจกรรมนั่งรถไฟไปชมคอนเสิร์ตตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับแฟนเพลง และคอคอนเสิร์ต สามารถใช้บริการรถไฟเป็นพาหนะหลักในการเดินทางไปชมคอนเสิร์ตได้

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2567 การรถไฟฯ ได้จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติขึ้นเพื่อส่งมอบความสุข และเพิ่มพูนความรู้แก่เยาวชนทั่วประเทศ พร้อมกับมีกิจกรรมสันทนาการ สร้างแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์ โดยมีน้องๆ เด็กและเยาวชนให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก
ในปีนี้การรถไฟฯ ได้จัดกิจกรรมขึ้นภายใต้แนวคิด “ขบวนรถไฟแห่งความสุข” ซึ่งมุ่งเน้นให้น้องๆ เด็กและเยาวชน ได้เรียนรู้ และลงมือทำจริง เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ เกิดความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนมีความรักภาคภูมิใจในกิจการรถไฟ ซึ่งเป็นระบบขนส่งทางรางที่มีประวัติศาสตร์อยู่คู่กับเมืองไทยมายาวนานกว่า 125 ปี ขณะเดียวกันยังมุ่งส่งเสริมการปลูกฝังจิตสำนึกให้รู้จักหน้าที่ ปฏิบัติตนในระเบียบวินัยอันดี สอดคล้องกับคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 ที่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน มอบไว้ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย”

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม Open House เปิดบ้านแห่งการเรียนรู้ โดยเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ให้การต้อนรับคณะอาจารย์ และน้อง ๆ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 จากโรงเรียนพร้อม เขตลาดกระบัง ทัศนศึกษาที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นระบบคมนาคมที่มีความสำคัญของประเทศ ทำหน้าที่ในการให้บริการประชาชนคนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 126 ปี 
ในการทัศนศึกษาครั้งนี้ เริ่มต้นที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ นำน้องๆ ร่วมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ภายในอาคารสถานีกรุงเทพ สาธิตวิธีการซื้อตั๋วโดยสารด้วยเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ D-ticket และเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้ลองซื้อตั๋วโดยสารรถไฟด้วยตนเอง รวมทั้ง เยี่ยมชมรถจักรที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ จำนวน 7 คัน ที่จัดแสดงไว้บริเวณชานชาลาที่ 4 และ 5 ของสถานีกรุงเทพ ซึ่งได้รับความสนใจจากน้อง ๆ เป็นอย่างมาก 
จากนั้นนำคณะอาจารย์ และน้อง ๆ นั่งรถไฟจากสถานีกรุงเทพไปยังสถานีชุมทางบางซื่อ ด้วยขบวนรถธรรมดาที่ 209 กรุงเทพ - บ้านตาคลี เพื่อสร้างประสบการณ์จริงเป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียน โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และยังได้รับความรู้เกี่ยวกับการรถไฟฯ อีกด้วย ตามเจตนารมย์ของการรถไฟฯ ที่มีความห่วงใยและมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตและบริการเดินทางขนส่งทางรางที่ดีแก่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน

กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และภาคีพันธมิตรภาคีเอกชน ได้แก่ บริษัทบุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดตัวกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟ “สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม” เพื่อส่งมอบประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ผ่านการเดินทางโดยรถไฟ ที่มีความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2567 จำนวน 6 เส้นทาง ประกอบด้วย
เดือนกรกฎาคม 2567 กิจกรรมโดยรถไฟ KIHA 183 จำนวน 4 เส้นทาง พร้อมแพ็กเกจท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ราคา 3,999 บาท ต่อท่าน ได้แก่
- เส้นทางที่ 1 กรุงเทพ - ราชบุรี (ภาคกลาง) ในวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2567
- เส้นทางที่ 2 กรุงเทพ -สวนสนประดิพัทธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ภาคกลาง) ในวันที่ 13 – 14 กรกฎาคม 2567
- เส้นทางที่ 3 กรุงเทพ - สุพรรณบุรี (ภาคกลาง) ในวันที่ 20 – 21 กรกฎาคม 2567
- เส้นทางที่ 4 กรุงเทพ - ปราจีนบุรี (ภาคตะวันออก) ในวันที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2567
เดือนสิงหาคม กิจกรรม “สิงหาแม่พาเที่ยว” 2 เส้นทางรถไฟ ในรูปแบบ One Day Trip ได้แก่
- เส้นทางที่ 1 แม่พาลูกเที่ยว ชวนนั่งรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ กรุงเทพ - ฉะเชิงเทรา (ภาคตะวันออก) ในวันที่ 12 สิงหาคม 2567 ราคา 799 และ 329 บาทต่อท่าน
- เส้นทางที่ 2 Royal Blossom รถไฟสายแห่งความสุข กรุงเทพ - กาญจนบุรี ซึ่งเป็นการเปิดให้บริการขบวนรถท่องเที่ยว SRT Royal Blossom เป็นครั้งแรก ในวันที่ 17 สิงหาคม 2567 ราคา 1,799 บาทต่อท่าน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดงาน “เทศกาลขนหัวลุก” ครั้งแรกของไทย ปลุกกระแสการท่องเที่ยวแห่งศรัทธา สร้างประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่าง ผ่านการจัดงานในรูปแบบเมืองศิลปะ (Art City) ด้วยการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยด้านความเชื่อที่ได้สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น และเปิดโอกาสผู้ประกอบการด้านกิจกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ ความศรัทธาของคนไทย ได้มีเวทีเพื่อใช้ในการจัดแสดงและพัฒนาสินค้าทางการท่องเที่ยว โดยงานจัดขึ้นที่โรงงานมักกะสัน กรุงเทพมหานคร

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดใหญ่ เทศกาล “OTOP ของดีวิถีริมราง“ ขนของดี บริการคุณภาพจากสายทางรถไฟทั่วประเทศ มารวมไว้ที่เดียว ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์(สถานีกลางบางซื่อ) 3 วันเต็ม วันที่ 22-24 มีนาคม นี้ พบกับสินค้า OTOP อาหารและของดีของเด่นประจำถิ่นจากเส้นทางรถไฟทั้ง 4 ภาค และร้านอินฟลูเอนเซอร์จำนวนมากมาย อาทิ กุ้งแช่น้ำปลา แปดริ้ว, น้ำพริกแคบหมูยายน้อย, ลูกชิ้นแม่ประณาม, สมทรง เป็ดย่างนครปฐม, บ้านปลาทูมหาชัย, King Octopus ราชาปลาหมึก, ปังเวอร์ สูตรอร่อยกว่า 70 ปี

การรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม ร่วมกับ องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย ชวนเที่ยวเทศกาลเที่ยวงานวัด “ชีวิตดีดี กับวิถีริมราง” เที่ยว ช้อป ชิมสินค้าและอาหารขึ้นชื่อจากชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ ประกอบด้วย สินค้าจากผู้ประกอบการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ร้านค้าของดีริมทางรถไฟ สินค้าและบริการของดีประจำจังหวัดต่างๆ มากกว่า 500 รายการ พร้อมด้วยกิจกรรมบันเทิงและคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำ ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ บริเวณลานด้านนอกอาคาร ประตู 5 – 12 ระหว่างวันที่ 19 – 28 กรกฎาคม 2567 รวม 10 วัน ตั้งแต่ เวลา 10.00 – 21.00 น.